ขอต่อจากตอนที่แล้ว ที่เราจะมาสืบค้นกันว่า อะไรคือสิ่งที่ลูกค้า ต้องการจริงๆ. ซึ่งน่าแปลก ใจไหมล่ะคะว่า บางทีตัวลูกค้าเองก็อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าอะไรคือสิ่งที่เขาต้องการและมีสิทธิครอบครองได้อย่างแท้จริง???.เรามาช่วยลูกค้าค้นหากันต่อค่ะ.4. อะไรคือสิ่งที่เขาชอบมากที่สุด ในสิ่งที่เขามีอยู่แล้ว เช่น ครัวต้องใหญ่นะ เพราะเป็นคนชอบเข้าครัว , ระเบียงต้องมี, ส่วนกลาง ต้องมีสระว่ายน้ำ สิ่งเหล่านี้ที่เขาชอบ. ฉะนั้น บ้านใหม่ควรต้องมีค่ะ ??? 5. อะไรที่เขาไม่ชอบ ในทางเดียวกัน บ้านใหม่ต้องไม่มี 6. อะไรที่เขาต้องการในบ้านหลังใหม่ * ข้อ 4,5,6นี้ จะเป็นแนวทางที่สำคัญที่ช่วยคุณวิเคราะห์ สิ่งที่ลูกค้าต้องการได้อย่างแม่นยำ หาทรัพย์ที่โดนใจเขาจริงๆ 7. ใครบ้างที่ต้องร่วมตัดสินใจ- แหม่ สำคัญมากทีเดียวค่ะ คุณต้องทราบ เพราะคุณพาไปดู 10 กว่าครั้งจนเขาพอใจ แต่คู่สมรสเค้าไม่ชอบ หรือคุณพ่อคุณแม่ซึ่งเป็นคนจ่ายตังค์บอกว่าไม่ชอบ คุณจะเสียเวลามากๆ ??? และเวลาคือผลงาน ผลงานคืนเงิน * จำไว้เลยนะคะคนออกเงินจะมีข้อโต้แย้งมากที่สุด แต่คุณไม่ต้องกลัวค่ะเพราะในหน้ามือโปรอย่างเราจะต้องรู้วิธีการแก้ไขข้อโต้แย้งต่างๆได้ เรียนรู้ไปเรื่อยเรื่อยนะคะ 8. ลูกค้าพร้อมซื้อเลยไหม - ถามลูกค้าไปเลยนะคะว่า มีแผนซื้อเมื่อไหร่ค่ะ ถ้าลูกค้าบอกดูไปเรื่อยเรื่อย หรือซื้อปีหน้า ??? อย่างนี้ เราไปโฟกัสกับลูกค้าที่พร้อมซื้อเลยดีกว่าไหมคะ เพราะเวลาของเรามีค่าค่ะ??? หวังว่า เทคนิค วิเคราะห์ลูกค้าทั้งแปดข้อนี้ช่วยให้คุณดูแล

คราวที่แล้ว เราติดกันไว้ว่า ตัวแทนมือโปร ต้องใช้ข้อมูลอะไรบ้างในการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ความต้องการของลูกค้า ให้แม่นยำ เพื่อปิดการขายให้ได้!!! 8 สิ่งที่คุณต้องสืบค้นให้เจอจากลูกค้า ??? เริ่มกันเร้ย... 1. ลูกค้าอาศัยอยู่ทำเลไหน ทำงานอยู่ที่ไหน- ข้อนี้ จะทำให้เรารู้ว่า ทรัพย์ที่เขาต้องการหรือมองหาอยู่บริเวณไหน เพราะคนส่วนใหญ่จะย้ายบ้านอยู่ใกล้บ้านเดิมหรือที่ทำงาน นั่นแหล่ะค่ะ 2. บ้านแบบไหน ออฟฟิศแบบไหน ราคาประมาณเท่าไหร่ ที่ลูกค้ามีอยู่แล้ว- เพราะ ทรัพย์ใหม่ที่เขามองหา อย่างน้อยต้องมีทุกสิ่งที่เขาชอบในบ้านเก่าของเขา และควรจะต้องดีกว่าที่บ้านเก่าเขามีด้วยค่ะ^^??ส่วนที่เราต้องทราบราคาทรัพย์ที่เขามีอยู่แล้ว ว่าราคาประมาณเท่าไหร่ อันนี้ก็จะใช้วิเคราะห์ ความสามารถในการซื้อครั้งนี้ของลูกค้าไงหล่ะค่ะ ?? 3. งบประมาณในการซื้อครั้งนี้ของลูกค้า ซื้อให้ใคร งบเท่าไหร่ - เพราะ ถ้าซื้อคอนโดให้ลูกอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย ราคาก็ไม่จำเป็นต้องสูง แต่ต้องดูปลอดภัย แต่ถ้าซื้ออยู่ให้คนงานอยู่ ราคาก็คนละเรื่องเลยค่ะ ถามไปตรงๆเลยค่ะ ลูกค้าตั้งงบไว้เท่าไหร่ค่ะ เอาตัวเลขที่แน่ๆ ไม่อย่างนั้นคุณจะเสียเวลาเปล่า ในการเสนอสินค้าที่เขาไม่มีเงินซื้อ ??? วันนี้ขอเสนอ 3 ข้อนี้ก่อน อย่าลืมสืบค้นให้เจอนะคะ

การ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ?? ความต้องการของลูกค้าอย่างแม่นยำ?เป็นหัวใจ❤️สำคัญที่สุดของการประสบความสำเร็จของตัวแทน เรียลเอสเตท มือโปร การเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า เปรียบเสมือนหมอที่วินิจฉัยโรคได้ถูก ก็จะให้ยาถูก คนไข้จะรอดชีวิต แต่ถ้าวินิจฉัยผิด มันหมายถึงชีวิตเขา ???... กรณีนี้คือทำให้ลูกค้าได้บ้านที่เขาไม่ถูกใจ ซึ่งบ้านคือการลงเงินก้อนใหญ่??? ที่สุดในชีวิตเขา มันหมายถึงความโกรธ??ของครอบครัว และเพื่อนเพื่อนของเขาที่มีต่อคุณกันเลยทีเดียว ???? เพราะฉะนั้น มีความจำเป็นมากที่คุณจะต้องเก็บข้อมูลที่เป็น?? รายละเอียดของลูกค้า สิ่งที่ลูกค้าต้องการ คุณจงตั้งใจฟังและจดสิ่งที่ลูกค้าบอกมาให้หมด? นำมาวิเคราะห์ ว่าอะไรคือสิ่งที่เขาปรารถนาและอะไรคือสิ่งที่เขาสามารถเป็นเจ้าของได้จริง ซึ่งสิ่งนี้จะนำเอามาเป็นจุดขายซึ่งจะช่วยในการปิดการขายของคุณได้อีกด้วย ✅✅?? คราวหน้าเราจะมาดูกันนะคะว่า ตัวแทนมือโปรควรต้องทราบอะไรจากลูกค้าบ้าง เพื่อใช้ในการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ความต้องการของลูกค้ากันนะคะ โปรดติดตามตอนต่อไป???

..ลูกค้ากลุ่มที่อยากจะแนะนำให้รู้จักอีกกลุ่มคือ ลูกค้าที่เป็นนักลงทุนค่ะ ...ลูกค้าประเภทนี้เราต้องเข้าใจธรรมชาติของเขาว่าเขาเป็นนักลงทุนค่ะ สิ่งที่เขาสนใจคือเขาจะทำกำไรได้เท่าไหร่ ทรัพย์ของเราถูกจริงไหม ถูกแค่ไหน ถูกเท่าไหร่ ถูกยังไง ???เหตุผลในการซื้อต้องทำกำไรให้ได้มากที่สุดและเร็วที่สุด??? ?️‍♂️สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ Agent ต้องเตรียมพร้อมให้มากที่สุดค่ะ เพราะคนกลุ่มนี้มีประสบการณ์ในการซื้อขายมากที่สุดเมื่อเทียบกับลูกค้าทุกกลุ่ม เพราะฉะนั้นสินค้าที่จะเสนอต้องมีคุณภาพดี ราคาถูก งบประมาณอาจจะสูงได้ แต่ ถ้าเขาสามารถนำไปทำกำไรได้ ปิดดีลไม่ยากค่ะ ....ข้อควรระวังในการดีลกับลูกค้ากลุ่มนักลงทุน คืออย่าอวดเก่งกว่าเขาค่ะ ข้อมูลเขาดี และอาจจะดีกว่าเราในบางแง่มุมด้วยซ้ำ ... สิ่งที่นายหน้ามมือโปรจะต้องทำก็คือ ต้องนำเสนอข้อมูลให้เขาเป็นตัวเลข เปรียบเทียบราคากับคู่แข่งให้ดู ทำการบ้านมาให้ดี ทำให้เขาเห็นโอกาสในการทำกำไรนะคะ ? แม้ว่าลูกค้ากลุ่มนักลงทุนเป็นลูกค้าที่เราจะต้องระมัดระวังที่สุด แต่ข้อดีของลูกค้ากลุ่มนี้ก็คือขายง่ายที่สุด เร็วที่สุด ค่ะ เห็นอย่างนี้แล้ว รีบมองหาทำความรู้จักกับลูกค้ากลุ่มนี้กันให้มากๆเลยดีไหมค่ะ?????

..การเป็นนายหน้านอกจากเราจะมี Sale Skills หรือทักษะทางการขายแล้ว เรายังต้องมีมารยาทที่ดีในการจัดการเรื่องส่วนตัวของลูกค้า ... ครั้งหนึ่งเจ้าของทรัพย์ท่านหนึ่ง ได้ให้คุณภรรยามาฝากให้ดิฉันขายทรัพย์ให้ค่ะ ดิฉันก็ทำการตลาดตามปกติ จนในที่สุดทรัพย์ขายได้สำเร็จ และนำไปสู่กระบวนการโอน ซึงก็ไม่น่าจะมีประเด็นอะไร ...ก่อนไปโอนกรรมสิทธิ์ดิฉันสอบถามคุณภรรยาตามปกติว่าจดทะเบียนสมรสไหมค่ะ เพื่อจะได้จัดเตรียมใบยินยอมคู่สมรสให้เซ็น คุณภรรยาดูอ้ำอึ้ง ไม่แน่ใจ ...อืมมม ? นายหน้ามือโปรควรต้อง get ทันใด ว่าเคสนี้คงจะพิเศษ...?? ...นายหน้ามือโปรต้องรักษามารยาทค่ะ อย่าทำให้ลูกค้าอึดอัด หรือทำเป็นประเด็น ...สิ่งที่ดิฉันทำก็คือ ไม่ถามอะไรใดๆทั้งสิ้น และขอสำเนาทะเบียนสมรส และใบยินยอมคู่สมรส จากคุณสามี เพื่อให้ภรรยา อีกท่านที่จดทะเบียนสมรสเซ็นยินยอม และเซ็นรับรองเอกสารเพื่อขาย และดำเนินการขายให้เสร็จสิ้นกระบวนการจนโอนกรรมสิทธิ์ ตามหน้าที่โดยสมบูรณ์ค่ะ??? ??เรื่องนี้บอกเลยว่า ข้อควรปฏิบัติในมุมมองของดิฉัน ต่อกรณีคบซ้อน และการมีโลก2ใบของลูกค้า คือดิฉันจะไม่ก้าวกาย หรือยุ่งวุ่นวาย หรือสอบถามเรื่องส่วนตัวของลูกค้าแม้แต่นิดเดียว เพียงแค่สังเกต รับรู้ จัดการให้ถูกต้องตามกาละเทศะ เพื่อไม่ให้เกิดความ อึดอัดลำบากใจ และดำเนินการตามกระบวนการขายให้สมบูรณ์ จบค่ะ ?เราเป็นนักขายค่ะ ไม่ใช่นักสืบ ? ? นายหน้าที่ดี ไม่เม้าท์

??ลูกค้าที่สมบูรณ์แบบ ?? เอเจ้นทุกท่านใฝ่ฝันที่สุดก็ลูกค้าที่สมบูรณ์แบบเนี่ยแหละค่ะ ดูยังไงใช่ไหมคะ - หน้าตาดี ? - ถือกระเป๋าแบรนด์เนม? - ใส่แหวนเพชร? ? Oh Noooooo ❌ วันนี้มี4วิธีจับสัญญาณลูกค้าเกรด A ✅มาฝากค่ะ 1. ลูกค้ามีความต้องการจริงไหม ? (Need) A : เนี่ยใช่เลยคอนโดที่ผมฝันถึง แต่ต้องรออีกซักระยะหนึ่งจะซื้อนะครับ ผมไม่รีบ B : ที่นี่ใช่เลย…. ที่ผมอยากได้จริงๆ 2. ลูกค้าที่จะซื้อเลย ? ( Ready) A: ขอกลับไปคิดดูก่อนไม่รีบ … ขอเก็บข้อมูลไปเรื่อยเรื่อย B: สำหรับผมถ้าถูกใจ ผมซื้อเลย 3. มีความสามารถทางการเงิน (Purchasing Power) A: ผมว่าแพงไปหน่อย. ตอนนี้ยังไม่มีเงินคงต้องรอผ่อนรถหมดก่อน B: โอเคผมชอบ ต้องทำไงต่อครับ 4. มีอำนาจการตัดสินใจ?

ฟังให้เป็น เห็นเงินแสน !!! จั่วหัวขึ้นมาอย่างนี้ นายหน้าหลายท่านคงงง!! เอฟังอีท่าไหนหว่า จะคว้าเงินแสนได้??? ครั้งหนึ่งลูกค้าดิฉัน จะซื้อคอนโดราคาหลักหลายสิบล้าน…. ผู้ขายต้องการให้วางเงินมัดจำหลักล้าน ผู้ซื้อท่านนี้ไม่พอใจมากค่ะ โทรมาหาดิฉันด้วยความโกรธ ? ดิฉันนี้.... อย่างเครียด เรียกว่าเห็นเบอร์ ไม่กล้ารับสายเลยค่ะ??? แล้วทำไง….. พอตั้งสติได้ ฟังค่ะ ไม่ตอบโต้หรือแสดงอาการโกรธแม้สักนิดเดียว ฟัง ฟัง ฟัง.... จนได้ยินว่า ที่พูดมายาวยาวเนี่ย จริงๆ เรื่องจำนวนเงินไม่ใช่ปัญหา ฐานะการเงินแน่นปึกกกกก แต่เสียเหลี่ยมนี่มัน…นะ^_^ น่านไง ประเด็นอยู่ตรงนี้ I got you ผู้ซื้อท่านนี้ได้ยินมาจากเพื่อนว่าใครเขามัดจำกันขนาดนี้ ข้อนี้ทั้งถูกและไม่ถูกค่ะ จริงๆไม่มีกติกาตายตัวสำหรับเงินมัดจำค่ะ ขึ้นอยู่กับผู้ขายและผู้ซื้อพอใจ บังเอิญว่าเจ้าของต้องการความมั่นใจเลยเรียกมัดจำสูงเลย??? เคยไหมค่ะ ซื้อของในห้างแพงไม่ว่า เพราะ เป็นราคามาตรฐาน แต่ถ้าซื้อในตลาดนิ ต่อแหลกเพราะกลัวโดนหลอก อารมณ์เดียวกันนี้เลยค่ะ….??? เมื่อต้นเหตุความไม่พอใจอยู่ที่กลัวโดนหลอก ดิฉันก็ ต้องอธิบายให้ท่านเข้าใจถึงประโยชน์ของการวางมัดจำสูงค่ะ คือถ้าเราต้องการยูนิตนี้มาก แล้วเราวางมัดจำน้อย เกิดใครมาขอซื้อ โดยให้ราคาที่มาก กว่า